บทความที่เป็นประโยชน์

กระทรวงพาณิชย์เร่งเปิดชายแดน หวังส่งออกฟื้น 4%

18 กุมภาพันธ์ 2564

หากนับย้อนหลังไป 10 ปี การส่งออก หรือการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยมีการเติบโตต่อเนื่องเรื่อยมา จากความร่วมมือทางเศรษฐกิจอาเซียนที่ทำให้ลดปัญหาด้านภาษี รวมถึงความสะดวกอื่นๆ ที่เอื้ออำนวยต่อการค้าระหว่างกันในภูมิภาค โดยเฉพาะการค้าระหว่างประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดต่อกัน

แต่การขยายตัวทางการค้าชายแดนและผ่านแดนนั้นได้ซบเซาลงในช่วง 2 ปีก่อน จากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ส่งผลให้ยอดการส่งออกลดลงไป 3.43% จากปี 61

อีกทั้งการเกิดโรคระบาดโควิด 19 ที่ตอกย้ำปัญหาการส่งออกทำให้ยอดการส่งออกลดลงอีกอย่างต่อเนื่อง จากยอดการค้าที่เคยได้กว่า 8 แสนล้านบาท หายไปกว่า 80,000 ล้านบาท จากการปิดด่านชายแดนเพื่อเฝ้าระวังการระบาดของโรคโควิด 19 โดยเฉพาะด่านการค้าระหว่างไทยกับ มาเลเซีย เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา

แม้ข่าวดีในทางกลับกันสำหรับปีนี้ การค้าผ่านแดนไปยังจีน เวียดนาม สิงคโปร์ และประเทศอื่นๆ มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 8.41% แต่ก็ยังมีมูลค่าน้อยกว่าการค้าผ่านแดนไปยังมาเลเซีย เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา

กระทรวงพาณิชย์เล็งเห็นปัญหาการชะลอตัวของการส่งออก จึงออกมาตรการเร่งเปิดด่านชายแดนเพื่อให้ยอดการค้ากลับฟื้นตัวขึ้น

ปัจจุบัน ด่านชายแดนเปิดแล้ว 40 ด่าน จากทั้งหมด 97 ด่าน และอยู่ระหว่างเร่งรัดให้เปิดอีก 3 ด่าน คือ

  1. ด่านป่าแซง จังหวัดอุบลราชธานี
  2. ด่านเชียงคาน จังหวัดเลย
  3. ท่าเรือหายโศก จังหวัดหนองคาย 

นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยแก้ปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน โดยผลักดันการขนส่งทางบกผ่านแดนที่กำลังเร่งรัดให้เปิดดังที่กล่าวมาด้วย

ด่านการค้าชายแดนเมียนมา เป็นด่านที่น่าจับตามองที่สุด เนื่องจากมีศักยภาพในการเติบโตสูง จากการที่มีพรมแดนติดต่อกันยาวถึง 2,400 กิโลเมตร โดยมีด่านแม่สาย แม่สอด หรือระนอง เป็นด่านหลักถาวรในการส่งออก แต่สิ่งที่น่ากังวลสำหรับด่านชายแดนเมียนมา คือเหตุการณ์รัฐประหาร ที่อาจต้องสังเกตการณ์ความเป็นไปได้ของนโยบายคว่ำบาตรที่อาจเกิดขึ้นกับเมียนมา โดยจะส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศเพื่อนบ้านของไทย

อย่างไรก็ตาม จากมาตรการเร่งรัดเปิดชายแดน กระทรวงพาณิชย์คาดว่ายอดการค้าจะฟื้นกลับมา และขยายตัวขึ้นได้ถึง 4%

 

แหล่งข้อมูล: 

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/921164

<< กลับไปหน้าบทความ

บทความอื่นๆ