บทความที่เป็นประโยชน์

ขึ้นทะเบียนจีไอ ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา ลุ้นส่งออกจีน-มาเลย์สร้างรายได้ 2,800 ล้านบาทต่อปี

21 กุมภาพันธ์ 2566

ทุเรียน เป็นผลไม้ส่งออก ที่สำคัญของไทย ในปี 2564 ที่ผ่านมา ทุเรียนไทยมีมูลค่าส่งออกสูงถึง 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการขยายตัวของการส่งออกสูงถึงร้อยละ 68 จากข้อมูล Trade Map ของ International Trade Center (ITC) พบว่า ในตลาดนำเข้าทุเรียนทั้งโลก ทุเรียนไทยได้รับความนิยมสูงสุด
คือ มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 76 ของการนำเข้าทุเรียนทั่วโลกทั้งฮ่องกงและเวียดนามต่างก็นำเข้าทุเรียนไทย
คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 94 ของการนำเข้าทุเรียนทั้งหมด เพื่อไปขายต่ออีกทอดหนึ่งให้แก่ผู้บริโภคชาวจีน
ซึ่งเป็น ผู้บริโภคทุเรียนไทย รายใหญ่ที่สุดในโลก

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า 
กรมทรัพย์สินทางปัญญา ประกาศให้ “ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา” เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ตัวใหม่ 
ของจังหวัดยะลา ช่วยกระตุ้นการส่งออกผลไม้ไทยสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน 
เเละ มาเลเซีย  สอดรับนโยบายสร้างความเข้มเเข็งเศรษฐกิจชุมชนไทยกระจายรายได้สู่เกษตรกรรายย่อย

ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติที่โดดเด่น หวานมัน เนื้อเเห้ง ละเอียด เส้นใยน้อย มีกลิ่นเฉพาะตัว และเนื้อมีสีเหลืองอ่อนหรือเข้มตามแต่ละสายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ก้านยาว พันธุ์ชะนี พันธุ์พวงมณีพันธุ์มูซังคิง
และพันธุ์หนามดำหรือโอฉี่ ปลูกได้ตลอดทั้งปี ปลูกบนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางตั้งเเต่ 100 เมตรขึ้นไป
ตามไหล่เขา สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน ของทุกปี ด้วยรสชาติ และ กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทำให้ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา มีราคาสูงถึง 190 บาท/กก. สร้างรายได้ให้คนยะลามากถึง  2,800 ล้านบาทต่อปี ผนวกกับความเข้มแข็งของกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ที่ร่วมกันพัฒนาคุณภาพสินค้า เเละ บรรจุภัณฑ์  จึงทำให้ “ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา” เป็นอีกหนึ่งแหล่งรายได้สำคัญของยะลา ถัดจาก
“กล้วยหินบันนังสตา” ที่ได้ขึ้นทะเบียน GI ไปก่อนหน้านี้

 ดังนั้นการขึ้นทะเบียน GI ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา ถือเป็นก้าวสำคัญของการยกระดับสินค้าเกษตรไทยสู่สายตาชาวโลก สร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างงาน และ รายได้ให้แก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน และเกษตรกรในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน

 

ที่มาแหล่งข้อมูล : ประชาชาติธุรกิจ

https://www.prachachat.net/economy/news-1198793

ติดต่อสอบถามบริการ BTL

02-681-2005ถึง9

www.bkkterminal.com

m.me/BangkokTerminalLogistics

<< กลับไปหน้าบทความ

บทความอื่นๆ