หมูไทยแพงกว่า 1.3 เท่า! เสี่ยงเสียตลาดแสนล้านให้หมูนำเข้า?

การเปิดตลาดสินค้าการเกษตรบางรายการเพื่อแลกกับการลดภาษีนำเข้าบางกลุ่มอุตสาหกรรม กำลังเป็นประเด็นที่ภาคธุรกิจและเกษตรกรไทยจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเนื้อหมูและเครื่องใน ซึ่งถูกยกให้เป็นหนึ่งในสินค้าสำคัญที่มีผลต่อห่วงโซ่อุปทานทั้งระบบ

ล่าสุด มีการวิเคราะห์ว่า หากมีการเปิดตลาดนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐฯ แบบภาษี 0% จะส่งผลกระทบในหลายมิติ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจาก ราคาขายเฉลี่ยหมูไทยที่ 2.3 ดอลลาร์/กก. ซึ่งแพงกว่าหมูสหรัฐฯ ที่อยู่ที่ 1.7 ดอลลาร์/กก. ถึง 1.3 เท่า

ศักยภาพการผลิตที่ทิ้งห่าง
หมูสหรัฐฯ ผลิตในระดับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีต้นทุนต่ำ และมีระบบจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถตั้งราคาขายที่ถูกกว่าไทยอย่างมาก หากไทยเปิดเสรีการนำเข้า ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่:

• ✅ เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู (149,000 ราย) ส่วนใหญ่เป็นรายย่อยกว่า 97% อาจต้องเลิกกิจการหรือว่างงาน
• ✅ ผู้ปลูกพืชอาหารสัตว์ (เช่น ข้าวโพด, ปลายข้าว) กว่า 5 ล้านครัวเรือน อาจประสบปัญหาราคาตกต่ำ
• ✅ โรงชำแหละและผู้ค้าปลีกหมู อาจถูกแย่งตลาดจากสินค้าตัดแต่งสำเร็จรูปที่นำเข้า
• ✅ ตลาดเนื้อหมูไทยอาจสูญเสียมูลค่ารวมกว่า 112,330 ล้านบาท

ความกังวลด้านสุขภาพ
แม้ผู้บริโภคและร้านอาหารจะได้ประโยชน์จากต้นทุนที่ลดลง แต่มีความกังวลว่า หมูนำเข้าอาจมีสารเร่งเนื้อแดง ซึ่งในหลายประเทศมีการใช้เพื่อเพิ่มเนื้อแดงและลดไขมันในหมู สารนี้อาจก่อผลข้างเคียง เช่น กล้ามเนื้อกระตุก มือสั่น วิงเวียน หรืออาการรุนแรงอื่น ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้มีโรคประจำตัว

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์