บริษัท บางกอกเทอร์มินอลโลจิสติกส์ จำกัด

MPI โตสวนกระแส! เศรษฐกิจไทยฟื้นจริง…หรือแค่ภาพลวงตา?
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนพฤษภาคม 2568 อยู่ที่ ระดับ 100.79 เพิ่มขึ้น 1.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยมีอัตราการใช้กำลังการผลิต (Cap U) เพิ่มขึ้นเป็น 61.14% จาก 56.62% ในเดือนเมษายน สะท้อนการฟื้นตัวของภาคการผลิต
ดัชนี MPI หรือ Manufacturing Production Index คือ ดัชนีที่วัดระดับการผลิตของภาคอุตสาหกรรมในประเทศ โดยเมื่อดัชนีเพิ่มขึ้นแสดงว่าภาคการผลิตมีการขยายตัว ซึ่งบ่งบอกถึงภาวะเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมที่ดีขึ้น
กลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นแรงผลักสำคัญ ได้แก่:
- ยานยนต์ ขยายตัวสูงถึง 12.86% จากคำสั่งซื้อที่เกิดขึ้นในช่วงงานแสดงรถยนต์และความต้องการรถประเภทไฮบริด ปลั๊กอิน และไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
- การส่งออกเติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 มีมูลค่ารวมเพิ่มขึ้น 18.4% จากการเร่งส่งออกไปยังตลาดหลักก่อนมาตรการขึ้นภาษีใหม่ โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรม (ไม่รวมสินค้าทางการทหารและทองคำ) อยู่ที่ 23,552 ล้านดอลลาร์ โตถึง 22.3%
อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขจะดูดีในช่วงนี้แต่ครึ่งปีหลังยังมีหลายปัจจัยที่ต้องระวัง:
- ความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีจากคู่ค้ารายใหญ่
- ค่าเงินบาทแข็ง
- สินค้านำเข้าทะลัก
- หนี้ครัวเรือนสูงถึง 16.4 ล้านล้านบาท หรือกว่า 88.4% ของ GDP
- ภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวจากปัญหาความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
ผลกระทบทั้งหมดนี้เริ่มสะท้อนผ่านดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ลดลงในเดือนพฤษภาคม และนำไปสู่การส่งสัญญาณ “เฝ้าระวังต่อเนื่อง” ในภาพรวมของเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
GDP ประเทศไทยในปีนี้จึงมีการปรับประมาณการลดลงจาก 1.5-2.0% เหลือเพียง 0.5-1.5% เท่านั้น
อุตสาหกรรมที่โตดีในเดือนพ.ค. ได้แก่:
- ยานยนต์: +12.86% นำโดยรถไฮบริดขนาดใหญ่, รถปิกอัพและรถไฟฟ้า
- น้ำมันปาล์ม: +25.14% จากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากอินเดีย จีนและเมียนมา
- น้ำตาล: +21.43% จากปริมาณอ้อยที่เพิ่มขึ้นและราคาที่จูงใจเกษตรกร
อุตสาหกรรมที่ยังหดตัว:
- เครื่องปรับอากาศ: -10.64% จากอากาศแปรปรวนและการแข่งขันด้านราคาจากต่างประเทศ
- เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์: -13.56% จากการหยุดผลิตของผู้ผลิตหลัก
- กาแฟ ชา สมุนไพร: -80.83% จากการหยุดผลิตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5
ที่มาข้อมูล : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์