



การลงทุนในประเทศไทยยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.–ก.ย.) มียอดยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนกว่า 2,622 โครงการ รวมมูลค่า 1.37 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 94% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มองว่าไทยยังเป็น ฐานการผลิตระยะยาวที่แข็งแกร่งในอาเซียน
อุตสาหกรรมเด่นที่ดึงดูดการลงทุน
กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในปีนี้ ได้แก่
นักลงทุนต่างชาติยังมั่นใจไทย
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มีสัญญาณขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวม 1,947 โครงการ มูลค่า 985,337 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 82% จากปีก่อน
5 ประเทศที่ลงทุนสูงสุด ได้แก่ สิงคโปร์, ฮ่องกง, จีน, สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น
โดยเฉพาะโครงการ Data Center ขนาดใหญ่จากสิงคโปร์และอังกฤษ รวมถึงโรงงานผลิตแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าจากฮ่องกง ล้วนเป็นการลงทุนที่สะท้อนความมั่นใจต่อเศรษฐกิจไทยและศักยภาพด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่
พื้นที่ลงทุนยอดนิยม
พื้นที่ภาคตะวันออก ยังคงครองอันดับหนึ่งของการลงทุน มูลค่ารวมกว่า 855,000 ล้านบาท
รองลงมาคือภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันตกตามลำดับ
ปรับสู่ Smart & Sustainable Industry
การลงทุนเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมเดิมสู่ Smart Industry / Sustainable Industry ก็ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ในช่วง 9 เดือนแรก มีคำขอกว่า 402 โครงการ มูลค่า 37,652 ล้านบาท เน้นการนำระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์และเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดพลังงาน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
โอกาสใหม่ของไทยในยุคเทคโนโลยี
คลื่นการลงทุนใหม่ที่เน้นเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น เซมิคอนดักเตอร์ แบตเตอรี่ และ Data Center กำลังเปลี่ยนโฉมโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้ทันสมัยมากขึ้น
เม็ดเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นนี้คาดว่าจะสร้างการจ้างงานกว่า 175,000 ตำแหน่ง และเพิ่มมูลค่าส่งออกของประเทศกว่า 1.4 ล้านล้านบาทต่อปี
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์