



นายสมชาย สุมนัสขจรกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม เข้าตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการพัฒนาระบบขนส่งทางราง
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนางสาวณภัทรา กมลรักษา ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสมชาย สุมนัสขจรกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม เข้าตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานให้กับกรมการขนส่งทางราง
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยมี ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง นายอธิภู จิตรานุเคราะห์ รองอธิบดีฯข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางราง ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมมนังคสิลา ชั้น 2 อาคาร ณ ถลาง ขร.
นายสุรพงษ์ฯ กล่าวว่า ตามกรอบนโยบายคมนาคม “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน” ที่ต้องการสร้างความสุขให้กับประชาชนในทุกมิติ ได้แก่ มิติทางเศรษฐกิจ มิติด้านความปลอดภัย มิติด้านการให้บริการที่เป็นมาตรฐานสากล และมิติด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
โดยระบบขนส่งทางรางถือเป็นหนึ่งในโหมดการเดินทางที่สำคัญที่สามารถตอบโจทย์ในทุกมิติตามที่กล่าวมาข้างต้น ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ จึงต้องมีการกำหนดกรอบนโยบายการดำเนินงานที่ชัดเจน
เพื่อให้การดำเนินงานของกรมการขนส่งทางรางในฐานะหน่วยงานหลักในการกำกับดูแลระบบขนส่งทางรางของประเทศ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและนโยบายของกระทรวงคมนาคมในการขับเคลื่อนตามภารกิจด้านคมนาคมการขนส่งทางราง ดังนี้
1. ทางเศรษฐกิจ มุ่งเน้นการกำกับ ติดตาม การพัฒนาโครงข่ายระบบรางทั้งในเมืองและระหว่างเมือง การพัฒนาระบบรถไฟระหว่างเมือง การพัฒนาทางคู่ เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงระบบรางทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อการกระจายความเจริญทั้งในเขตเมืองและภูมิภาคและส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นระบบเศรษฐกิจของประเทศ
2. ด้านความปลอดภัย โดยให้ความสำคัญกับการกำกับ ติดตามการให้บริการระบบราง ด้วยการยกระดับด้านการอำนวยความสะดวก และการให้บริการด้านความปลอดภัยสู่มาตรฐานสากลทั้งในมิติด้านการเพิ่มประสิทธิภาพในส่วนการให้บริการเชิงสังคมและการให้บริการเชิงพาณิชย์
โดยมีเป้าหมาย เพื่อลดความเสี่ยงและการสูญเสียจากการเดินทางของการขนส่งทางราง สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ การป้องกันและลดอุบัติเหตุระหว่างจุดตัดทางถนนและทางรถไฟ โดยการลดจุดตัดที่ไม่จำเป็น ปิดทางลักผ่านที่ผิดกฎหมาย ตลอดจนส่งเสริมการก่อสร้างทางข้ามหรืออุโมงค์ข้ามทางรถไฟเพื่อลดอุบัติเหตุ และลดการเสียเวลาการเดินทาง รวมถึงการรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความปลอดภัย
พร้อมทั้งมีการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการกำกับดูแลระบบให้ได้มาตรฐานและปลอดภัย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนในยุคดิจิทัล อาทิเช่น การพัฒนาแอปพลิเคชัน “DRT Crossing” ที่รวบรวมฐานข้อมูลจุดตัดทางถนนและทางรถไฟไว้ให้ประชาชนสามารถเข้าไปดูข้อมูลต่างๆ ได้ และสามารถแจ้งข้อมูลอุบัติเหตุหรือจุดตัดที่ชำรุดได้ในแอปพลิเคชัน ซึ่งจะช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบและเร่งประสานงานแก้ไขเพื่อป้องกันอุบัติเหตุได้อย่างรวดเร็ว
3. ด้านการให้บริการที่เป็นมาตรฐานสากล เดินหน้ายกระดับการให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกและเชื่อมต่อการเดินทางให้กับประชาชนที่ต้องการเข้าถึงขนส่งทางราง ตลอดจนตอบสนองการใช้บริการ ให้สามารถเดินทางจากต้นทางไปถึงปลายทางได้อย่างรวดเร็ว สะดวก สะอาด ปลอดภัย ตรงต่อเวลา ราคาเหมาะสม รองรับประชาชนทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่ ทุกภาคส่วน – ส่งเสริมแนวทางกำหนดอัตราค่าโดยสารขั้นสูง ค่าแรกเข้า และหลักเกณฑ์การขึ้นอัตราค่าโดยสารขนส่งมวลชนระบบราง เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการขนส่งทางรางได้อย่างเสมอภาคและเท่าเทียม โดยล่าสุดรัฐบาลได้ประกาศใช้นโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย หรือปรับลดจากอัตราค่าโดยสารปัจจุบัน เริ่มต้น 14 บาท สูงสุดไม่เกิน 42 บาท เหลืออัตราค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 20 บาทเฉพาะของแต่ละสาย ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยจะนำร่อง 2 โครงการ คือ
1.โครงการรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ และ
2.โครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต (สายธานีรัถยา) และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน (สายนครวิถี) โดยมาตรการอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาทตลอดสาย จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้บริการระบบรางเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
4. ด้านการอนุรักษ์สิ่ง แวดล้อม การหาแนวทางในการลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อใช้ในการประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้จากการ Shift Mode และนำมาซื้อขายเป็นคาร์บอนเครดิต เพื่อเป็นรายได้กลับคืนให้แก่ผู้ให้บริการในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่อไป
รวมทั้งการกำกับดูแลและตรวจสอบหน่วยงาน operation ในเขตพื้นที่ระหว่างการก่อสร้างด้วย โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และ PM 2.5 ลดสภาวะโลกร้อน
ทางด้านนายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กล่าวเพิ่มเติมถึงประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ…. มีผลใช้บังคับ ในหลายประเด็น ได้แก่
การดำเนินการต่างๆ เหล่านี้ ถือเป็นหนึ่งในแผนการดำเนินงานของกรมการขนส่งทางราง ที่มุ่งมั่นส่งเสริมการพัฒนาการขนส่งทางรางให้มีประสิทธิภาพ ขร. พร้อมเดินหน้าพัฒนาการขนส่งทางราง และขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม
เพื่อให้ขนส่งทางรางเป็นระบบขนส่งหลักของประเทศที่มีความทันสมัย ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเพื่อให้คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่และการเดินทางของประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย และมีความสุขในการใช้บริการ เพื่อให้เป็น “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน”
ที่มาแหล่งข้อมูล : กรมการขนส่งทางราง
————————–
ติดต่อสอบถามบริการ BTL
02-681-2005 ถึง 9