บทความที่เป็นประโยชน์

การค้าชายแดนและผ่านแดนประเดิมปี 2567 ขยายตัว 2.5% กระตุ้นการค้าชายแดนภาคอีสาน เร่งสร้างรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-หนองคาย เชื่อมจีน-ลาว

15 มีนาคม 2567

ความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคาย ที่จะเชื่อมโยงกับโครงการรถไฟจีน ลาว ไทย เพื่อเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ในภูมิภาค และเพิ่มขีดความสามารถให้ประเทศ รวมถึงขยายตลาดการส่งออกสินค้าไทย เพิ่มนักท่องเที่ยว โดยได้เชิญผู้แทนกระทรวงคมนาคม การรถไฟฯ กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์มาให้ข้อมูล ซึ่งคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ มีความเห็นในเบื้องต้นว่า การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคายค่อนข้างล่าช้าเนื่องจากช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมาตั้งเป้าให้เสร็จภายในปี 2571 แต่ขณะนี้ปี 2567 ได้ก่อสร้างเสร็จไปเพียง 14.5 กม.เท่านั้น คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ เห็นว่ารัฐบาลควรต้องวางแผนการก่อสร้าง รวมทั้งการบริหารสัญญาใหม่เพื่อให้มีความกระชับ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสร้างให้เสร็จโดยเร็วตามกำหนด เพื่อเชื่อมระบบโลจิสติกส์ของไทยเข้ากับลาวโดยเร็ว รวมทั้งไทยควรเร่งสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง หนองคายแห่งที่ 2 ให้เสร็จโดยเร็วด้วย โครงการรถไฟความเร็วสูงของไทยที่จะเชื่อมไปยังลาวและจีนนั้น เป็นระบบโลจิสติกส์ทางรางที่สำคัญ จะเพิ่มขีดความสามารถให้ประเทศ จะสร้างโอกาสในทางเศรษฐกิจแก่สินค้าของไทยเพื่อเข้าสู่ตลาดในประเทศจีนตอนใต้ และไทยก็ต้องเตรียมมาตรการรองรับการหลั่งไหลของสินค้ามาไทยด้วย ซึ่งในเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติในทางการค้าระหว่างประเทศที่มีทั้งการนำเข้าและส่งออก และผู้ประกอบการไทยจะต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของตัวเอง

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยตัวเลขการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือนมกราคม 2567 มีมูลค่าการค้ารวม 141,164 ล้านบาท ขยายตัว 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 เป็นการส่งออก 75,046 ล้านบาท (+4.8%) และการนำเข้า 66,119 ล้านบาท (-0.02%) โดยไทยได้ดุลการค้าในเดือนมกราคม 2567 ทั้งสิ้น 8,927 ล้านบาท

  • การค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ เดือนมกราคม 2567 มีมูลค่าการค้ารวม 82,278 ล้านบาท (+0.9%) เป็นการส่งออก 50,088 ล้านบาท (+4.4%) การนำเข้า 32,190 ล้านบาท (-4.0%) และไทยได้ดุลการค้ารวมทั้งสิ้น 17,898 ล้านบาท โดยการค้าชายแดนกับ สปป.ลาว มีมูลค่าสูงสุด 25,959 ล้านบาท รองลงมา คือ มาเลเซีย 23,989 ล้านบาท เมียนมา 17,121 ล้านบาท และกัมพูชา 15,210 ล้านบาท ซึ่งสินค้าส่งออกชายแดนสำคัญในเดือนมกราคม 2567 ได้แก่ น้ำมันดีเซล 3,891 ล้านบาท น้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ 1,650 ล้านบาท และน้ำตาลทรายขาว 1,334 ล้านบาท
  • ด้านการค้าผ่านแดนไปประเทศที่สาม เดือนมกราคม 2567 มีมูลค่าการค้ารวม 58,886 ล้านบาท (+4.7%) เป็นการส่งออก 24,958 ล้านบาท (+5.5%) และการนำเข้า 33,928 ล้านบาท (+4.1%) โดยการค้าผ่านแดนไปจีน มีมูลค่าสูงที่สุด 31,316 ล้านบาท (+26.6%) รองลงมาคือ สิงคโปร์ และเวียดนาม มีมูลค่า 8,206 ล้านบาท (-30.3%) และ 5,716 ล้านบาท (-13.1%) ตามลำดับ ซึ่งสินค้าส่งออกผ่านแดนสำคัญในเดือนมกราคม 2567 ได้แก่ ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ 5,520 ล้านบาท ยางแท่ง TSNR 2,628 ล้านบาท และไม้แปรรูป 1,913 ล้านบาท

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยเริ่มต้นปีใหม่ ปี 2567 เดือนแรกในแดนบวก มูลค่าการค้ารวมขยายตัว 2.5% ถือเป็นสัญญาณที่ดี โดยเป็นการขยายตัวทั้งการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (+0.9%) และการค้าผ่านแดนไปประเทศที่สาม (+4.7%) โดยการส่งออกชายแดนขยายตัว 4.4% โดยเฉพาะการส่งออกชายแดนไป สปป.ลาว ที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน มีมูลค่า 14,890 ล้านบาท ขยายตัว 13.4% ซึ่งสินค้าส่งออกสำคัญในเดือนมกราคม 2567 ได้แก่ น้ำมันดีเซล 2,883 ล้านบาท และน้ำตาลทรายขาว 1,112 ล้านบาท ในขณะที่การส่งออกผ่านแดนขยายตัว 5.5% โดยการส่งออกผ่านแดนไปจีนยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง (+4.1%) ซึ่งสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ 5,520 ล้านบาท และยางแท่ง TSNR 2,628 ล้านบาท

ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศได้จัดงานมหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดมุกดาหาร ระหว่างวันที่ 29 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม 2567    เพื่อกระตุ้นการค้าชายแดนภาคอีสาน โดยภายในงานประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่

  1. การจัดงานแสดงสินค้าที่ประกอบด้วยสินค้าไทยและสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน จำนวน 120 คูหา ณ ลานหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร
  2. การประชุมติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน และการติดตามการดำเนินการศูนย์บริการ OSS นครพนม และมุกดาหาร
  3. การจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ โดยเชิญผู้นำเข้าเข้าร่วมจากอาเซียนและจีนเข้าร่วม
  4. การสัมมนาหัวข้อ ใช้ AI ช่วยค้า กำไรมาทันใจ” โดยวิทยากรผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการทำตลาดออนไลน์จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย

เพื่อขยายโอกาสการค้าชายแดนเชื่อมโยงการค้าไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ตลอดจนกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ในจังหวัดภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ มียอดจำหน่ายสินค้าตลอดการจัดงานแสดงสินค้ากว่า 2.5 ล้านบาท

 

ที่มาแหล่งข้อมูล : Thailandplus / Matichon

--------------------------

https://www.thailandplus.tv/archives/798608
 

https://www.matichon.co.th/politics/news_4464150

ติดต่อสอบถามบริการ BTL 

02-681-2005ถึง9 

www.bkkterminal.com 

m.me/BangkokTerminalLogistics 

<< กลับไปหน้าบทความ

บทความอื่นๆ