ไทยพร้อมเดินหน้า FTA กับกลุ่ม GCC โอกาสใหม่เชื่อมเศรษฐกิจสู่อ่าวอาหรับ
2 มิถุนายน 2568

กลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ หรือ GCC (Gulf Cooperation Council) กำลังกลายเป็นพลังเศรษฐกิจใหม่ของโลก ประกอบด้วย 6 ประเทศ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ คูเวต โอมาน และบาห์เรน ซึ่งมีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจในตะวันออกกลาง
ข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เดือนพฤษภาคม 2568 ระบุว่า GDP รวมของกลุ่ม GCC อยู่ที่ 2.16 ล้านล้านดอลลาร์ คิดเป็น 44.51% ของ GDP ในตะวันออกกลาง และ 1.89% ของ GDP โลก โดยมีประชากรรวม 62.47 ล้านคน และรายได้เฉลี่ยต่อหัวอยู่ในระดับสูง
ผลศึกษาความเป็นไปได้ในการทำ FTA ระหว่างไทยกับกลุ่ม GCC ระบุว่า
GDP ของไทยจะเพิ่มขึ้น 0.36-0.49%
การส่งออกของไทยไป GCC จะเพิ่มขึ้น 2,179–4,095 ล้านดอลลาร์ หรือ 23.85–44.82%
การส่งออกจาก GCC มายังไทยจะเพิ่มขึ้น 827–1,313 ล้านดอลลาร์ หรือ 3.65–5.80%
สินค้าของไทยที่มีแนวโน้มขยายตัวในตลาด GCC ได้แก่ อาหาร เคมีภัณฑ์ ยาง พลาสติก เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร ยานยนต์และชิ้นส่วน ส่วนสินค้าจาก GCC ที่จะส่งเข้ามาไทยเพิ่มขึ้น เช่น น้ำมัน ปิโตรเคมี โลหะ ยานยนต์และชิ้นส่วน
ในปี 2567 มูลค่าการค้ารวมระหว่างไทยกับ GCC อยู่ที่ 35,761.95 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.71% จากปีก่อน คิดเป็น 5.89% ของมูลค่าการค้ารวมของไทย และ 87.97% ของการค้าไทยในตะวันออกกลาง โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นประเทศที่มีมูลค่าการค้ากับไทยสูงที่สุด
ช่วง 3 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.–มี.ค.) การค้ารวมระหว่างไทยและ GCC อยู่ที่ 10,148.61 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 22.78% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์